ตัวแทนจากไมโครซอฟท์ได้ออกมากล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทางทีมงานกำลังเร่งสืบสวนหาต้นตอของสาเหตุของปัญหาช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ Server 2008 Release 2 ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการเปิดโอกาสให้พวกแฮกเกอร์สามารถเข้ามาควบคุมการทำงานต่างๆของเครื่องและทำการโจรกรรมได้อย่างอิสระ
โดยทางทีมงานได้มีการรับแจ้งปัญหาจากผู้ใช้งานโดยอ้างว่า ได้พบช่องโหว่ใน Windows Server Message Block (SMB) ซึ่งสามารถปฏิเสธการให้บริการได้ โดยช่องโหว่นี้ ทางทีมงานไม่ได้รู้ตัวมาก่อนว่า มีพวกแฮกเกอร์บางกลุ่ม ได้อาศัยจังหวะนี้ในการเข้ามาทำความเสียหายให้กับผู้ใช้งาน โดยตัวบัคจะกระตุ้นให้เกิดการวนลูบบนโปรโตคอลของ SMB อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่ง SMB นี้ จะเป็นส่วนที่วินโดวส์ใช้ในการแชร์ไฟล์ต่างๆบนระบบ เป็นผลทำให้อาจมีการโจรกรรมข้อมูลเกิดขึ้นได้ โดยทางทีมผู้พัฒนากล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการเร่งหาสาเหตุความเป็นไปได้ของปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ หากพบแล้ว จะรีบพัฒนาซอฟท์แวร์ปรับปรุงการทำงานออกมาให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้เอง ทางไมโครซอฟท์ได้เพิ่งทำการส่งซอฟท์แวร์อัพเดตการทำงาน Windows 7 ออกมา โดยมีการแก้ไขปัญหาในส่วนของ Windows kernel ซึ่งมีความรุนแรงอยู่ในระดับ critical

มีรายงานข่าวลือออกมาว่า Google ได้มีการวางแผนเตรียมที่จะทำการส่งเวบบราวน์เซอร์ Chrome ในเวอร์ชั่น beta สำหรับคอมพิวเตอร์ Mac ออกมาราวๆเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
โดยถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ Google จะเริ่มเปิดให้ทดสอบเวบบราวน์เซอร์ Chrome เวอร์ชั่นอัพเดตล่าสุด หรือ Chrome 4.0 สำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ไปแล้ว แต่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆสำหรับเวอร์ชั่น Linux และ Mac OS X นั้น ยังคงมีไม่มากนัก ล่าสุดมีรายงานเปิดเผยออกมาว่า Google อาจจะมีการส่ง Chrome ในเวอร์ชั่น beta สำหรับคอมพิวเตอร์ Mac ออกมาราวๆเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งใน Chrome เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ทางทีมผู้พัฒนาได้มีการนำเอาเทคโนโลยีที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในเวบบราวน์เซอร์รูปแบบ open-source ของค่ายอื่นๆในปัจจุบัน อาทิ Firefox เข้ามาใช้ในการพัฒนาเพื่อขยายขอบเขตความสามารถ ซึ่งเทคโนโลยีที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า Browser Actions โดยจะช่วยให้สามารถติดต่อกับผู้ใช้งานได้ผ่านทางปุ่มเล็กๆที่อยู่ทางด้านมุมบนขวามือของหน้าต่าง แต่อุปสรรคที่เป็นปัญหาสำคัญอยู่ในขณะนี้ก็คือ เทคโนโลยี Browser Actions นี้ จะสามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux ได้เท่านั้น นั่นหมายถึงว่า ยังไม่สามารถปรับใช้เข้ากับคอมพิวเตอร์ Mac ได้ โดยในขณะนี้ ทางทีมผู้พัฒนาได้พยายามเร่งมือกันอย่างหนัก เพื่อให้สามารถบรรลุได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ โดย Nick Baum ผู้จัดการของ Google Chrome ได้กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทางทีมงานจะยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาเพื่อเพิ่มเทคโนโลยี Browser Actions เข้าไปใน Chrome เวอร์ชั่นสำหรับ Mac นั้น แต่รับรองว่าน่าจะใช้เวลาอีกไม่นานนัก ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น beta ได้ราวๆภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

กูเกิ้ลนำเสนอโปรโมชั่น Cloud Drive 16 TB ค่าใช้จ่าย 4,100 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อปีพร้อมการันตีไม่มีไฟล์หาย
หลายๆ คนอาจไม่รู้มาก่อนว่ากูเกิ้ลเจ้าของเว็บไซต์เสริจเอนจิ้นชื่อดังอันดับหนึ่งนั้นยังมีธุรกิจอีกมากมายที่ไม่ใช่เฉพาะเว็บไซต์ และการให้บริการเก็บข้อมูลผ่านทาง Cloud Server ก็เป็น 1 ในบริการของกูเกิ้ลที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 2 ปี และล่าสุดกับการเปิดให้บริการ Clound Server เก็บข้อมูลผ่านทางเซิฟเวอร์ของกูเกิ้ลเองที่มีขนาดใหญ่กว่า 16 TB และเสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 4,100 ดอลล่าร์สหรัฐฯหรือประมาณ 1.2 แสนบาทไทย นอกจากนั้นยังมีการให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลอีกหลากหลายระดับตามที่ผู้ใช้ต้องการได้แก่ 20 GB จนถึง 80 GB และมีค่าบริการขั้นต้นเพียงแค่ 5 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อปี (ประมาณ 150 บาทไทย) ข้อเปรียบต่างระหว่างพื้นที่เก็บข้อมูลที่ทางกูเกิ้ลเสนอให้กับพื้นที่ฟรีอย่าง Gmail (7 GB) นั่นก็คือการการันตีการสูญหายของไฟล์ที่เก็บไว้ และบริการสนับสนุนต่างๆ จากทางทีมงานกูเกิ้ล

เว็บโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กที่ดึงดูดคนให้ติดหนึบอยู่นั้นส่วนหนึ่ง คือ เกมที่เล่น ๆ กันโดยผู้พัฒนาภายนอกอย่างเช่น เกม ฟาร์มวิลล์ ที่มีจำนวนคนเล่นทั่วโลกรวมกันมากถึงกว่า 63 ล้านคน มีฟาร์มที่ ผู้เล่นสร้างขึ้นในเกมนี้มากถึง 40 ล้านฟาร์ม ซื้อแทรกเตอร์วันละ 500,000 คันโดยเฉลี่ย
ผู้พัฒนาเกมเหล่านี้หารายได้จากการโฆษณาบนเกม และการขายของเสมือนจริง หรือไอเท็มต่าง ๆ ในแต่ละปีมีมูลค่ามหาศาล คิดเป็นเงินไทยอาจจะมากถึง แสนล้านบาทก็ได้
แต่ส่วนหนึ่งของรายได้เหล่านี้ไม่ใช่ได้มาโดยบริสุทธิ์สะอาด ทว่ามาจากกลโกง ของกลุ่มที่หารายได้จากโฆษณาบนเกมใน โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอีกทอดหนึ่ง
ทั้งหลอกให้คลิก หลอกให้ซื้อเงินเสมือนจริงด้วยเงินจริง หลอกให้ตอบแบบสอบถาม หลอกให้ต้องเสียค่าส่งข้อความทางโทรศัพท์แพง ๆ หลอกให้ทดลอง ฯลฯ
"ฟาร์มแคช" เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ กลลวงให้สมัครเพื่อทดลองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งทำให้หลงคิดว่าฟรีหรือถูก ๆ แต่ รูปแบบการสมัครเหมือนจริงทุกอย่าง และเมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นหลงลืมที่จะยกเลิกในช่วงเวลาทดลอง ก็จะเข้าไปสู่การใช้จริงที่เสียเงินมากกว่าที่คิดไว้มากด้วยการโดนหักจากบัญชีบัตรเครดิตหรือ โทรศัพท์มือถือ
ประเด็นสำคัญที่นำไปสู่การเสียเงินจริงอยู่ที่การคลิกตกลงและกรอกรายละเอียดยอมรับเงื่อนไขการชำระเงินนั่นเอง
บริษัท Zynga ซึ่งเป็นรายใหญ่ที่ทำมาหากินกับโฆษณาบนเกมโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ยอมรับด้วยซ้ำว่า รายได้กว่า 1 ใน 3 ของบริษัทมาจากส่วนแบ่งโฆษณาของบริการเหล่านี้คิดเป็นเงินไทยก็เฉียด ๆ 3 พันล้านบาทต่อปี
แน่นอนว่าหลังจากถูกเปิดโปงออกมา Zynga ยอมรับว่าจะเข้มงวดมากขึ้นกับโฆษณาขายบริการเหล่านั้น
แต่ผู้เล่นในตลาดไม่ได้มีเพียงเจ้าเดียว และเกมที่เล่นกันก็ไม่ได้มีแค่เกมเดียว จึงไม่อาจรับประกันได้ว่าจะสามารถกรองเอากลุ่มนักหลอกลวงเหล่านี้ไปได้หมด เพราะส่วนหนึ่งมันเป็นที่มาของรายได้มหาศาลที่แบ่งสันปันส่วนกันไป สำหรับผู้เล่นในตลาดซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ หากไม่โดนเปิดโปงออกมาโดย "เทคครันช์" เมื่อไม่กี่วันมานี้
ผู้เล่นเกมบนเฟซบุ๊กหรือโซเชี่ยล เน็ตเวิร์กอื่น ๆ ซึ่งมีแนวโน้มจะติดเกมค่อนข้างมากอยู่แล้ว มีแต่ต้องยับยั้งชั่งใจอย่าไปหลงคำโฆษณาชวนเชื่อใด ๆ อย่าโลภมากจนต้องใช้เงินเพื่อซื้อความก้าวหน้าในเกมด้วยเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระวังที่จะไปทำอะไรที่ต้องผูกพันกับการยอมรับเงื่อนไขการชำระเงินหรือข้อมูลส่วนตัว เช่น เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
ถ้าเล่นไปแบบธรรมดาโดยไม่ไปผูกพันกับการใช้เงินจริง ๆ โอกาสถูกหลอกให้เสียเงินก็จะไม่เกิดขึ้น

คอลัมน์ Cilck World
วงการอินเทอร์เน็ตกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 40 ปี เมื่อชื่อสกุล (โดเมนเนม) กำลังจะถูกเขียนได้หลากหลายภาษามากขึ้น นอกเหนือจากภาษาละตินแบบเดิม ๆ
โดย Icann องค์กรที่ควบคุมและดูแลการจดโดเมนเนมทั่วโลก ล่าสุดได้อนุมัติแผนให้สกุลโดเมนเนมสามารถถูกเขียนด้วยตัวอักษรภาษาต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อักษรภาษาละติน (อักษร A-Z) ได้ เช่น ภาษาแมนดาริน ฮินดี กรีก อารบิก หลังจากที่ Icann ใช้เวลามากกว่า 9 ปีในการพัฒนา และอีก 2 ปีสำหรับการทดสอบระบบ นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษที่ผ่านมาของโลกออนไลน์
นั่นหมายความว่า ประชากรจำนวนมากในโลกที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ไม่ได้ใช้ตัวอักษรภาษาละตินเป็นพื้นฐานในการสื่อสาร สามารถที่จะพิมพ์สกุลได้ด้วยภาษาของตัวเองและเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ และยังเป็นการแก้ปัญหาการเขียนด้วยตัวอักษรที่ไม่คุ้นเคยของผู้ใช้งาน
แต่กระนั้นก็ตาม สำหรับสกุลทั่วไป เช่น .com, .org หรือ .net ยังไม่เปิดให้บริการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะถัดออกไปอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้
"รอค เบคสโตรม" ประธานของ Icann กล่าวในงานประชุมของ Icann ณ เกาหลีใต้ว่า ผู้ที่ต้องการเปิดโดเมนใหม่นี้ Icann จะเริ่มรับลงทะเบียนช่วงกลางเดือน พ.ย. และอาจจะเริ่มใช้งานได้ช่วงกลางปี 2010 โดยจะคิดค่าบริการสำหรับผู้ให้ข้อมูล ดูแลฐานข้อมูล และให้บริการฐานข้อมูล (registry) มูลค่า 2.6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นค่าธรรมเนียม พร้อมกับ คิดส่วนแบ่ง 1-3% ของรายได้ registry ในแต่ละปีด้วย
เขายังกล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกกว่า 1.6 พันล้านคนในปัจจุบัน มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ภาษาละตินเป็นพื้นฐาน และตนเชื่อว่าถึงท้ายสุดแล้วนั้นจะมีเว็บต่าง ๆ ที่ใช้ตัวอักษรจำนวนกว่า 100,000 อักษรของภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกปรากฏบนเว็บไซต์ ซึ่งยัง ไม่สามารถใช้ได้ในระบบปัจจุบัน
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการเปิดบริการใหม่นี้ คือ หากองค์กรใดเป็นองค์กรระดับโลก สามารถใช้สกุล .com กับสำนักงานใหญ่ได้ แต่หากมีสาขากระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ก็สามารถที่จะใช้ภาษาประจำชาตินั้นในการสื่อสารได้ เช่น หากต้องการเข้าสู่เว็บ intel.com โปรแกรมจะพาเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ แต่หากเปลี่ยนสกุลเป็นภาษาญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลี สามารถที่จะพาผู้ใช้งาน ไปสู่เว็บไซต์ภาษาเหล่านั้นได้ทันที
สอดคล้องกับ "เลสลี่ คาวเลย์"ผู้บริหารระดับสูงจาก Nominet องค์กรดูแลด้านการจดโดเมนในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ยังมีคนจำนวนกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลกที่ยังไม่เคยเข้าถึงโลกออนไลน์ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาละตินในการเขียน ดังนั้นการอนุญาตให้สามารถเขียนสกุลด้วยภาษาอื่น ๆ ได้จะช่วยให้คนกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งสามารถ เข้าถึงเว็บได้ง่ายขึ้น และช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถเข้าสู่โลกออนไลน์
ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีการขยายตัวมากขึ้น เว็บไซต์เป็นที่รู้และจดจำได้ง่ายขึ้น สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่อิสรภาพของ การเชื่อมต่อระหว่างคอมมิวนิตี้ระดับโลก เข้าไว้ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม กระบวนการทำงานของ "Internationalised Domain Names" (IDNs) เปิดเผยว่า คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตจะถูกแปรรหัสในรูปของตัวเลข กระบวนการนี้เรียกว่า "โดเมนเนมเซิร์ฟเวอร์" เช่น เว็บไซต์ guardian.co.uk จะถูกแปรเป็น 77.91.248.30 เพื่อการจำแนกแยกแยะได้ แต่ปัญหาคือ หากเป็นตัวอักษรที่ไม่ใช่ภาษาละติน เช่น ตัวอักษรภาษาจีน จำเป็นที่จะต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อจัดการแปรรหัสดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเพิ่มรหัสที่มากขึ้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตสูงมากขึ้นตามมา โดยเฉพาะเว็บไซต์ปลอมอาจจะใช้ภาษาต่าง ๆ เพื่อที่จะหลอกลวงผู้ใช้งานได้
"โนร่า นานายาคคาร่า" ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาธุรกิจบริษัท Sedo ผู้ขายโดเมนเนม อธิบายว่า ความแตกต่างที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญระหว่างชื่อเว็บและสกุลที่คล้ายกัน อาจจะเป็นโอกาสอันดีของอาชญากรบนโลกไซเบอร์ที่ต้องการหาประโยชน์จากผู้ใช้งานเว็บ
ดังนั้น ประเด็นด้านความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง

ทางทีมงาน Mozilla กำลังเร่งทำงานกันอย่างหนัก เพื่อเตรียมปล่อย Firefox 3.6 เวอร์ชั่นเต็มออกมาให้ทันภายในปีนี้ โดยล่าสุดได้เปิดให้ทดสอบ Firefox 3.6 เวอร์ชั่น beta ตัวที่สองแล้ว
โดยหลังจากที่ Firefox 3.6 beta 1 ได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ล่าสุดทางทีมผู้พัฒนาของ Mozilla ก็ได้ฤกษ์ทำการปล่อยเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ล่าสุดของ Firefox 3.6 หรือ Firefox 3.6 beta 2 ออกมาอย่างติดๆ ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการแก้ไขจุดบกพร่องกว่า 190 จุดด้วยกัน โดย Mike Beltzner กรรมการของ Mozilla ได้กล่าวภายในบล็อกว่า ในเวอร์ชั่นนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลไกบางอย่างเพื่อป้องกันการเกิดความไม่ลงรอยกันในการทำงานระหว่างซอฟท์แวร์ต่างๆกับ Firefox นอกจากนี้ ยังได้มีการแก้ไขการทำงานในบางจุดสำหรับเวอร์ชั่นผู้พัฒนาอีกด้วย อาทิ สามารถที่จะใช้ความละเอียดของสีกับรูปแบบเทคโนโลยี Cascading Style Sheets หรือ CSS ได้, มีการเปลี่ยนสัญลักษณ์ภายในระหว่างเวอร์ชั่น beta 1 และ 2 เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ทางทีมงานได้พยายามเร่งมือกันอย่างหนัก เพื่อให้กำหนดเปิดตัว Firefox 3.6 ในเวอร์ชั่นเต็มออกมาตรงตามแพลนที่ได้วางไว้ ซึ่งนั่นก็คือภายในปลายปีนี้ นอกจากนี้ ทางทีมงานยังได้วางแผนที่จะทำการส่ง Firefox 3.7 ออกมาติดๆ ภายในครึ่งปีแรกของปี 2010 อีกด้วย และอาจจะมีเวอร์ชั่น 4.0 ออกมาภายในปีเดียวกัน

ข้อมูลจาก Net Applications ระบุว่า ยอดผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สถิติการเข้าถึงเน็ตผ่านทางพีซีที่ทำงานด้วยโอเอสตัวนี้มีส่วนแบ่งมากถึง 4% แล้วในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ระบบปฏิบัติการ Windows Vista ต้องใช้เวลาถึง 7 เดือนกว่าจะมีส่วนแบ่งของผู้ใช้ในระดับเดียวกันนี้ "ความต้องการ และความคาดหวังที่มีต่อ Windows 7 ได้รับการยืนยัน(จากตัวเลขสถิติที่เกิดขึ้น)แล้ว" Vince Vizzaccaro รองประธานฝ่ายบริหารของ Net Applications กล่าว คำถามที่ตามมาก็คือ ด้วยความแรงของ Windows 7 จะช่วยให้ไมโครซอฟท์ช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดคืนมาจาก Apple ได้ หรือไม่? "ถ้าถามว่า Windows 7 จะสามารถชะลอการลดลงของส่วนแบ่งตลาด หรือแม้แต่ช่วงชิงส่วนแบ่งคืนกลับมาได้ หรือไม่นั้น ผมคิดว่า เราจะทราบคำตอบได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้" Vizzaccaro กล่าว
ช่วงประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา Net Applications ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ยอดการใช้งาน Windows 7 เพิ่มขึ้นถึง 3% และมีแนวโน้มว่า มันจะเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการ Windows 7 เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 22 ตุลาคม โดยได้เคยมีสถิติการใช้งาน ด้วยการวัดจากการเข้าใช้อินเทอร์เน็ตสูงถึง 2% ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทวิจัยตลาด NPD กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดขาย Windows 7 ตอนเปิดตัวสูงเป็นสองเท่าของ Windows Vista
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังกล่าวอีกด้วยว่า องค์ธุรกิจต่างๆ ได้ให้ความสนใจ Windows 7 เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการทดสอบ่อยู่หลายเดือนพอสมควร ก่อนที่จะมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในองค์กร ในงาน TechEd ที่จัดขึ้นในยุโรป ไมโครซอฟท์ได้แนะนำเกี่ยวกับการนำ Windows 7 และ Windows Sever 2008 R2 ไปใช้ในองค์กร พร้อมทั้งเปิดเผยถึงลูกค้าองค์กรรายแรกๆ ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้ไปใช้แล้ว

นี่เป็นการใช้งาน Windows Live Writer เขียน Blog ของ Kusumoto ครับผม ว่าจะสามารถที่จะแสดงผลได้เป็นที่หน้าพอใจหรือไม่? ผลที่ออกมานั้นเป็นที่หน้าพอใจที่สุดเลยหล่ะครับ มันสามารถที่จะแสดงภาษาที่ถูกต้องได้ดี ภาษาไทยใน wordpress สามารถทำงานได้ตามปกติครับผม