Kusumoto Blog!

บางคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้กันแล้วนะครับ อะไรๆก็ Cloud กันไปหมดเด๋วนี้ ผมจะพูดถึง Cloud ระบบหนึ่ง คือ Cloud Computing ครับ

Cloud Computing :: คือระบบการสร้าง และการประมวลผลโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง มาช่วยกันประมวลผลงาน และสร้างผลงานขึ้นมา

แน่นอนว่าการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาประมวลผลงาน ย่อมเปิดผลดีในการทำงานแน่นอนครับ จะให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นรวดเร็วครับ

แต่แน่นอนครับ ค่าใช้จ่ายในการทำเช่นนี้ย่อมมากแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของคอมพิวเตอร์หลัก ระบบการสำรองข้อมูล ระบบการจัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายที่รวดเร็ว ซึ่งต้องการลงทุนมากครับ

แต่เราจะมาพูดในเรื่องของ Hosting แบบ Cloud กันครับ มันมีด้วยกันอยู่ 2 แบบใหญ่ๆนะครับ คือ

1. Cloud Hosting แบบปลอม Cloud แบบนี้จะเป็นการใช้ระบบ Cloud แบบไม่เต็มรูปแบบ (ประเทศไทยทั้งหมดจะใช้แบบนี้) มันใช้ระบบการประมวลแบบ ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง ประมวลผลครับ แต่ว่าเครื่องแต่ละเครื่องก็ยังตั้งอยู่ใน IDC เดียวกัน บางที่อาจจะตั้งในตู้เดียวกันด้วยซ้ำ หากระบบ Network หรือ ระบบไฟ ในตู้หรือ IDC นั้นล่มไป Web ของเราที่อยู่บน Cloud ก็รันไม่ได้แล้ว เขาถึงเรียกมันว่า Cloud ปลอม ไงหล่ะครับ

2. Cloud Hosting ของแท้ Cloud แบบนี้จะเป็นของแท้ครับ การทำงานต่างๆจะเหมือนกับ Hosting แบบปลอมทุกอย่าง แต่เครื่องแต่ละเครื่องจะ Run อยู่คนละ IDC กัน และบางที่ตั้งกันเครื่องละ ประเทศเลยด้วยซ้ำ ทำให้เวลาไฟดับใน IDC หนึ่ง แต่เว็บก็ยังทำงานได้ แล้วถ้า ระบบ Internet ของประเทศหนึ่งล่ม เว็บก็ยังทำงานได้อยู่ แต่มันจะเป็นการลงทุนมากที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายมากสุดๆไปเลยหล่ะ ถ้าจะทำระบบนี้ โครงการคุณต้องใหญ่ระดับโลกเลยหละครับ

คิดว่าเขียนไปแล้วคงจะเห็นภาพนะครับ

ช่วงนี้ประแสน้ำท่วมมาแรงครับ จนกลบกระแสอย่างอื่น ให้หายไปหมดแหละ เอาหล่ะตอนนี้เรามาแหวกกระแสไปนั่งเปรียบเทียบ OS แต่ละตัวบนมือถือกันดีกว่า ว่ามีอะไรหน้าใช้งานบ้าง และควรเลือกตัวไหนที่เห็นว่าเหมาะกับคุณ ไปดูกันครับ

:: iOS ::

เรารู้กันอยู่แล้วครับ ว่าเจ้านี้เน้นความมีระดับ และเน้นดีไซต์ตัวเครื่องให้หรูหรามากครับ และต้องการตามกระแสครับ เนื่องจากว่า Apple Limit การปรับแต่งต่างๆของตัว iOS อยู่หลายอย่าง ที่ทำไม่ได้อย่าง Android และ Symbian ครับ แต่คนก็ยังใช้งานมัน เพราะมันเป็นระบบที่ทำงานได้ลื่น เร็ว และรับรองการทำงานของ Application ต่างๆได้มากมายใน App Store ครับ อีกอย่าง อย่างที่เข้าใจกันว่า ถือ iPhone แล้วคนมอง มันดูมีระดับ เป็นคนมีตัง ใช้งานแล้วยืดอกได้ อิอิอิ แจ่มันก็ยังมีข้อจำกัดที่พูดแล้วในขั้นต้นครับ

เราสามารถแหกกฏได้ด้วยการ Jailbreak ครับ แต่มันผิดกฏการรับประกันของ Apple ครับ อีกอย่างความเสถียรของตัว OS อาจจะลดลง เพราะว่า Firmware ของมันโดนแก้ไขโดย Hacker เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ทำให้อาจจะมีช่องโหวสำหรับการเข้าถึงข้อมูลได้ครับ

คนที่เหมาะกับเจ้านี่ คือ ใช้งานทั่วไป ต้องการอินเทรน ต้องการเป็นที่จับจ้องของคนรอบข้าง เน้นการใช้งานด้านเอกสาร ด้านพรีเซ็นเทชัน เป็นต้นครับ

:: Android ::

ตัวนี้ไม่ต้องบอกครับว่าของฟรี มีลงไว้เกือบทุกยี่ห้อ ปรับแต่งได้มากมาย ไม่ต้องเข้าไปเจาะอะไรให้ยุ่งยาก ก็ปรับแต่งได้เยอะแล้วครับ (ถ้าต้องการมากกว่านั้น ก็จับมันทำ root ซะ) แต่มันก็ยังมีข้อเสียในเรื่องของความเสถียรครับ เพราะว่ามัน port ลงบนมือถือได้เกือบทุกรุ่น มันก็ย่อมมีบัคบ้างครับ เป็นเรื่องปกติครับ พูดกันตรงๆว่ามันสู้ iOS ไม่ได้ครับในเรื่องความเสถียร แต่ก็ดีครับที่มันฟรี Application เยอะ เปิดให้พัฒนาได้ฟรีๆครับ

คนที่เหมาะสำหรับเจ้านี่ :: คนที่ชอบอะไรแปลกๆใหม่ ไม่เน้นดีไซต์ เน้นการทำงาน เน้นพัฒนา App บน Android ครับ ชอบความแรงๆ ชอบอะไรใหม่ๆ เจ้านี่เลยครับ

:: Symbian ::

ระบบปฏิบัติการนี้ เก่าแก่มานานครับ ส่วนมาก Nokia เป็นเจ้าพ่อของระบบนี้ ตอนนี้ก็ยังให้เห็นกันอยู่มากครับ ข้อดีของมันคือ ใช้งานง่าย พบเห็นในมือถือ Nokia หลายๆรุ่น ที่มีราคาสูงสักหน่อย ตัวนี้รับรอง Application แบบ Java และ Flash ทั้งเก่าและใหม่ แต่ก็มีข้อเสียที่มันดูหน่วงๆ ใช้งานไม่ลื่น ถึงจะเป็นระบบเปิด แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเอาไปพัฒนาต่อ ระบบนี้มี 2 รุ่น คือ S60 และ UIQ ครับ

คนที่เหมาะกับระบบนี้ :: คนที่ชอบ Symbian หรือชอบ Nokia อยู่แล้ว เจ้านี่ตอบโจทย์คุณได้ครับ ใช้งานง่าย เน้นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน รับรอง Application พอสมควรครับ

หลังจากที่ได้ทำการเรียกสมาชิกและผู้ใช้งาน Windows Kusumoto Edition มาทำการปรึกษาหารือในเรื่องของแนวทารการพัฒนา Kusumoto Edition ในตัวต่อๆไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ส่วนตรงนี้จะขอปิดเอาไว้ก่อนนะครับรอประกาศอย่างเป็นทางการจากผมอีกครั้งนะครับ ตอนนี้คงจะพูดอะไรได้ไม่มาก พูดได้คำเดียวว่า รอ ครับ เพราะผมจะจอลาพักสักพักนะครับ ไม่อัพเดตเว็บสักพักใหญ่ เพราะมีภาระที่ต้องดำเนินการอีกมากมายครับ อีกอย่างตอนนี้ก็กำลังเข้าช่วงสอบ Gat Pat ทำให้ผมต้องหายหน้าไปยาวเลยหล่ะครับ ยังไงต้องขอกำลังใจจากทุกคนนะครับ ยังไงรับรองว่าจะไม่หนีไปไหนนานๆแน่นอนครับ จะยังคงผลิตผลงานให้ได้ใช้งานกะนเรื่อยไปนะครับ ขอบคุณครับ

ก่อนที่ผมจะตัดสินใจเลิกทำ Windows ผมอยากจะให้สมาชิกหรือผู้ติดตาม Windows Kusumoto Edition ว่าต้องการกำหนดการพัฒนาและทิศทางอย่างไร อยากให้ผมพัฒนามันไปในทางใด ต้องการอะไรเพิ่มเติม เพราะว่าจะได้พัฒนาได้ถูกใจผู้ติดตามนะครับ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรา เราหวังว่าทุกคนจะยังคงรัก และติดตามเราตลอดไปนะครับ

สำหรับ Link ของร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ => http://chat.tongtakung.tk

ส่วนเวลานั้น ตามใน Fanpage ครับ คือ 21.00 ของวันที่ 1 ตุลาคม 2554 ครับผม

หลายๆคนยังไม่รู้ว่าผมได้ทำการเปลี่ยน Server ใหม่ไปใช้ Server ในไทยแล้วนะครับ ตอนนี้จะเห็นได้ว่าเว็บโหลดเร็วขึ้นเยอะเลยหล่ะครับ ยังไม่รู้ว่าระบบรั่วตรงไหนบ้าง ยังไงช่วยแจ้งใน Facebook Fanpage ด้วยนะครับ หากมีปัญหา

ต้องขอบคุณคุณ Aummua แห่ง howcolo.com ที่ให้ใช้งาน Server ของเค้าฟรีๆครับ

หลายคนคงได้ทดสอบ Windows 8 ตัว Developer Preview กันมาแล้วนะครับ คงจะได้เห็นความสวยงามและความน่าเล่นของ Windows ตัวนี้มาแล้วนะครับ

….แต่เดี๋ยวก่อนครับ มันยังมีฟิวเจอร์หนึ่งที่ยังไม่สมบูรณ์และ Microsoft กำลังทำอยู่ นั้นคือ Microsoft Store เป็นศูนย์รวม App ต่างๆ เหมือน Apple App Store นั้นแหละครับ สั่ง Install โปรแกรมต้องสั่งทางนี้เท่านั้นครับ

ใครที่เคยใช้ iOS มาก่อนก็จะรู้ดีว่า App ที่ลงบน iOS จะต้องผ่าน Appstore เท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งนอก Appstore ได้ครับ ทางเดียวที่สามารถติดตั้ง App เถื่อนได้ คือ jailbroken เท่านั้น

เจ้า Windows 8 ก็เหมือนกันครับ ต้องสั่งซื้อ App และลง App จากทาง Microsoft Store เท่านั้นครับ ไม่มีไฟล์ .exe อีกต่อไป ไม่มี Crack ที่ต้องมาก๊อบ EXE ไปลงตรงนู้ตรงนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับโปรแกรม ทำผ่าน Microsoft Store เท่านั้นครับ

นี่คือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของ Windows 8 ในอนาคตนะครับ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมาอีก จะมารายงานให้ทราบกันนะครับ

วิธีการนี้ จะเป็นวิธีการที่ใช้งานในการเปิดการทำงานของ Timeline แบบขโมยใช้ เพราะว่ามันยังไม่เปิดให้ User ธรรมดาใช้งาน ฉะนั้นแล้ว Timeline จะมองเห็นกัน เฉพาะ Developer (นักพัฒนาโปรแกรมบน Facebook) เท่านั้น แล้วเราจะใช้ Timeline ได้ยังไงหล่ะ เราก็ต้องเป็นนักพัฒนาโปรแกรมไง อิอิอิ ทำยังไงหล่ะ ไปดู!

การทำแบบนี้นะครับ จะมองเห็นได้ คือผู้ที่เป็น Developer ด้วยกันเท่านั้นนะครับ เพื่อนที่ไม่ได้เป็น Developer จะมองไม่เห็น Timeline (เห็นเป็น Profile ปกติ) แจ้งไว้จตรงนี้ก่อนนะครับ

1. ให้ทำการ Login ด้วย Facebook ตามปกติ

2. ไปยัง https://developers.facebook.com/apps

3. คุณต้องเป็น Developer ก่อนด้วยการยอมรับเรื่องของ App ของทาง Facebook กด Allow

4. ระหว่างการสมัคร จะต้องยืนยันด้วยนะครับ (รู้สึกว่าจะให้ใส่เป็นเบอร์โทรศัพท์นะ) ลองทำกันดูนะครับ ส่วนใครที่เป็นนักพัฒนา App อยู่แล้วก็รอดตัวไป

5. ไปยัง https://developers.facebook.com/apps อีกครั้ง

6. คลิกที่ Create a new app (ปุ่มทางขวามือด้านบน) ตั้งชื่อ App Display Name และ App Namespace ว่าอะไรก็ได้ แล้วกดตกลง

7. จากนั้นจะเด้งมาหน้าตั้งค่า app ที่เราสร้างไว้ สังเกตุตรง App Namespace ถ้ายังว่างเปล่า ให้ใส่คำอะไรไปก็ได้ แล้วกดบันทึกค่า

8. คลิกที่เมนู Open Graph (ซ้ายมือ) จะได้หน้าแบบในภาพ ให้ใส่คำว่า read และ book ในสองช่องที่มี (ถ้าไม่มีช่องสำหรับกรอก ให้กลับไปทำที่ข้อ 5 โดยตั้งค่า App Namespace ใหม่) แล้วกดปุ่ม Get Stared

9. กรอก หรือ ดูรายละเอียดตามรูป แล้วกด Save

10. รอไม่กี่เสี่ยววินาที

11. กลับไปที่ Profile หรือ News Feed มันจะมี Popup ด้านบนบอกให้เราใช้ Timeline รออะไรอยู่ กดไปเลย

อย่างที่บอกครับ ว่ายังเห็นกันเฉพาะ Developer เท่านั้น ส่วนคนธรรมดา (User) จะเห็นหรือได้ใช้งานในวันที่ 1 ตุลาคม ครับ สำหรับ User ที่ขอเอาไว้ที่ http://www.facebook.com/timeline.php รอครับ วันที่ 1 ตุลาคม ได้ใช้งานรูปแบบเต็มๆ แน่นอนครับ

ตอนนี้ได้ Timeline มาใช้งานแล้วนะครับ อิอิอิ เป็นไงจะบอกทีหลังน้าาา

หลังจากเมื่อคืน (22 Sep 2011) ได้มีการจัดงานแถลงข่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Facebook ใช้ชื่องานว่า f8 (อาจจะหมายถึงยุคที่ 8 ของ Facebook ก็ได้) หนึ่งในนั้น ก็จะพูดถึงในเรื่องของ Timeline

Timeline เป็นระบบรายงาน Profile รูปแบบใหม่ ที่มีการจัดรูปแบบแตกต่างจากเปิดไปมากขึ้น และเป็นการรายงานข้อมูลทั้งหมด ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันในหน้าเดียว (คล้ายกับสมุดประวัติ แค่นำมาไว้ในหน้าเดียวเท่านั้นเอง) โดยการจัดรูปแบบต่างๆนั้น แตกต่างจากหน้า Profile แบบเดิมโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ก็มีการ Update เรื่องของรูป ซื้อทำให้มีการขยายขนาดรูป Thumbnail ใหม่ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ชัดเจนขึ้น ตอนนี้ก็จะมี Timeline เกิดขึ้นมาอีก มีการปรับอะไรต่อมิอะไรมากมาย จนทำให้ผู้ใช้งานหลายๆคน เริ่มเบื่อเอาเข้าแล้วหล่ะครับ

ระบบ Timeline จะทำการจัดเรียงข้อมูลในรูปแบบของ การเรียงจาก ใหม่ => เก่า เอาเรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น อยู่บน แล้วเลื่อนเรื่องเก่าๆ ลงไปอยู่ด้านล่าง ถามว่ามันจะโหลดข้อมูลทั้งหมด มาใว้ในเครื่องเราเลยหรอ ไม่ครับ มันจะโหลดข้อมูลล่าสุดเอาไว้ก่อน แล้วพอเราเลื่อนลงไป มันจะโหลดข้อมูลชุดที่ต้องการมา (เหมือนกับ News Feed ปัจจุบันนั้นแหละ) การทำแบบนี้ จะทำให้จัดการรูปแบบได้ง่ายขึ้น ดูดีขึ้น เป็นระบบเบียบขึ้น

ไม่ใช่แค่บน Desktop นะครับ Timeline ยังมีเวอร์ชันบน Mobile อีกด้วย มันทำให้หน้าสำหรับมือถือ ดูดีขึ้น และไม่จำเจอีกต่อไป สำหรับคนที่ชอบเล่นผ่าน หน้าเว็บบนมือถือ ก็เตรียมตัวเฮได้เลยครับ เพราะมันดูดีกว่าตัวเก่าที่ใช้อยู่เยอะเลย ทั้งนี้มันต้องขึ้นอยู่ครับ Web Browser Engine ด้วยครับ ว่ามีความสามารถในการ Render ได้ดีแค่ไหน

ตอนนี้ระบบนี้ยังอยุ่ในช่วงทดสอบในวงแคบนะครับ ยังไม่มีการเปิดใช้เป็นทางการ ผมว่าหากมันเปิดใช้งานเป็นทางการเมื่อไหร่ มีหวังคนบ่นกันอีกเยอะเลย ต้องดูก่อนต่อไปครับ ผมเองก็ยังเดากระแสที่ Facebook ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงไม่ถูกจริงๆ ต้องติดตามตอนต่อไปครับ

สำหรับผู้ที่อยากได้ข้อมูลเพิ่ม หรือต้องการทดสอบ ไปที่ Link ด้านล่างเลยครับ
https://www.facebook.com/about/timeline

หลังจากที่ได้เล่น iOS มาได้สักพัก ได้ลองอะไรๆหลายๆอย่างที่ไม่เคยลองมาก่อน ทำให้ผมมีประสบการณ์เรื่องของ iDevice มาขึ้น รวมถึงการได้ทดสอบ iOS 5 รุ่น Beta 7 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คงมีหลายๆ เว็บได้ทำการ Review เจ้า iOS ตัวนี้กันพอสมควรแล้ว คราวนี้ จะไม่ได้เป็นการรีวิวนะครับ แต่จะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมหลังจากที่ได้ทำการติดตั้งและใช้งาน iOS 5 รุ่น Beta 7 ครั้งนี้ครับ

สื่งที่มาเห็นเด่นชัดก็คือ iCloud ครับ เป็นระบบสำรองข้อมูล Online (คล้ายๆ Drupbox อ่ะ) ทำให้มีการสำรองข้อมูลอยู่ตลอดเวลา และสามารถทำให้ข้อมูลต่างๆตรงกัน ได้โดยผ่านเจ้า iCloud นี้แหละครับ ส่วนตัวคิดว่ามันยังทำงานได้ช้านะครับ มันยังมีข้อบกพร่อง อาการกระตุกระหว่างการใช้งานยังมีให้เห็นอยู่บ้างนะครับ โดยรวมแล้วดี

แล้วก็ไอตัว Tab ด้านบน ที่มีการรายงานหุ้นและ อากาศ บอกเลยครับว่า มันไม่จำเป็นสักเท่าไหร่สำหรับผม (ผมว่า SBSetting ยังมีประโยชน์มากกว่า) และไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้หรอกครับ (เพราะผมไม่ใช่นักธุรกิจ)

และเสียดายที่ยังไม่ได้ลอง Wi-Fi Sync ที่ใช้งานแทน USB ได้ แต่ไม่มีเวลาทดสอบ เลยไม่ขอพูดถึงนะ

ตอนนี้ก็ได้ตัดสินใจ Downgrade กลับมาใช้ 4.2.1 เหมือนเดิมแล้วนะครับ เพราะว่ามันยังไม่เรียบร้อย แถมต้องทำการ jailbroken ก่อนใช้งานครับ ไม่งั้นใช้งานไม่ได้ (มันต้องใช้ Dev Acc ของ Apple เสียเงิน 9 ดอล์ล่าต่อเดือน)

สรุปแล้วนะครับ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีครับ ที่ Apple คิดทำอะไรดีๆ สู้ jailbroken team บ้าง เพราะว่าผมเป็นคนหนึ่งแหละ ที่ jailbreak เพราะต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ iDevice ไม่ใช่การลง App เถื่อนเป็นหลัก!